ภาพรวมหลักสูตร

หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานิติศาสตร์เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ปีการศึกษา 2512 โดยรับสมัครผู้ที่สำเร็จการศึกษาปริญญานิติศาสตรบัณฑิตเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับมหาบัณฑิต ทั้งนี้ หลักสูตรฯ ได้มุ่งเน้นผลิตบัณฑิตให้มีความรู้และความเชี่ยวชาญเฉพาะในแต่ละสาขาวิชา ซึ่งประกอบไปด้วย 4 สาขาวิชากฎหมายหลัก อันได้แก่ กฎหมายเอกชนและธุรกิจ กฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา กฎหมายมหาชน และกฎหมายระหว่างประเทศ

ในแต่ละปีการศึกษา หลักสูตรฯ จะเปิดรับสมัครและทำการคัดเลือกผู้ที่มีสิทธิเข้าศึกษาประมาณปีละ 100 คน ทั้งนี้มีผู้ที่สำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิตจากทั่วประเทศให้ความสนใจและสมัครเข้าศึกษา ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานแล้วทั้งในหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน รวมถึงนิสิตนักศึกษาที่เพิ่งสำเร็จการศึกษา ด้วยเหตุดังกล่าว ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าศึกษาจึงมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้และมิตรภาพที่ดีระหว่างกัน

โครงสร้างและเนื้อหาหลักสูตร

เพื่อให้การศึกษาในระดับมหาบัณฑิตมีคุณภาพและมาตรฐานทางวิชาการอันเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป หลักสูตรฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของคัดเลือกอาจารย์และผู้ทรงวุฒิที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญทั้งในทางวิชาการและทางปฏิบัติเพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เรียน โดยมุ่งหวังให้ผู้เรียนได้รับประโยชน์และความรู้สูงสุดจากคณาจารย์ประจำ อาจารย์พิเศษ วิทยากร  ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและเป็นที่ยอมรับในวงการนิติศาสตร์ อาทิเช่น อดีตประธานศาลฎีกา ผู้พิพากษา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลปกครอง  อดีตอัยการสูงสุด  รวมถึงที่ปรึกษากฎหมายระดับแนวหน้าของประเทศจากสำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ

ปัจจุบัน หลักสูตรฯ ได้ผลิตมหาบัณฑิตกว่า 2,000 คน โดยมหาบัณฑิตเหล่านี้ได้นำความรู้ ความสามารถ ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับจากการเรียนการสอนไปใช้ในการพัฒนาประเทศชาติและรับใช้สังคมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาควิสาหกิจ รวมถึงภาคเอกชน อาทิ ผู้พิพากษา พนักงานอัยการ  ตุลาการ ข้าราชการ อาจารย์ นิติกร ทนายความ เป็นต้น

จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร 39 หน่วยกิต แบ่งเป็น

แผน ก2 (วิทยานิพนธ์)

  • รายวิชาบังคับทุกหมวดวิชา 6 หน่วยกิต
  • รายวิชาบังคับเฉพาะหมวดวิชา 9 หน่วยกิต
  • รายวิชาเลือกเฉพาะหมวดวิชา 9 หน่วยกิต
  • รายวิชาเลือกเสรี 3 หน่วยกิต
  • จำนวนหน่วยวิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต

แผน ข (เอกัตศึกษา)

  • รายวิชาบังคับทุกหมวดวิชา 6 หน่วยกิต
  • รายวิชาบังคับเฉพาะหมวดวิชา 12 หน่วยกิต
  • รายวิชาเลือกเฉพาะหมวดวิชา 9 หน่วยกิต
  • รายวิชาเลือกเสรี 6 หน่วยกิต
  • จำนวนหน่วยการค้นคว้าอิสระ 6 หน่วยกิต

การจัดการศึกษา

ระยะเวลาการศึกษา

หลักสูตรฯ มีระยะเวลาการศึกษา 2 ปีการศึกษา แต่ไม่เกิน 4 ปีการศึกษานับจากภาคการศึกษาแรกที่รับเข้าศึกษา

1 ปีการศึกษา : แบ่งเป็น 2 ภาคการศึกษา

ประมาณเดือนกรกฎาคมของทุกปี ลงทะเบียนเรียน ภาคการศึกษาต้น ที่เว็บไซต์ www.reg.chula.ac.th
ชำระค่าเล่าเรียน ผ่าน CU NEX Application
ระหว่างเดือนสิงหาคม – ธันวาคมของทุกปี การจัดการเรียนการสอน ภาคการศึกษาต้น
สอบปลายภาค (ภาคการศึกษาต้น)
ประมาณเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ลงทะเบียนเรียน ภาคการศึกษาปลายที่เว็บไซต์ www.reg.chula.ac.th
ชำระค่าเล่าเรียน ผ่าน CU NEX Application
ระหว่างเดือนมกราคม – พฤษภาคมของทุกปี การจัดการเรียนการสอน ภาคการศึกษาปลาย
สอบปลายภาค (ภาคการศึกษาปลาย)

เวลาเรียน วันจันทร์ – วันเสาร์

  • วันจันทร์ – วันศุกร์ : เวลา 17.00 – 20.00 น.
  • วันเสาร์ : เวลา 09.00 – 16.00 น.

การสมัครและแนวทางการคัดเลือก (How to Apply)

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร

  1. สำเร็จการศึกษาขั้นต่ำปริญญานิติศาสตรบัณฑิต
  2. ผ่านการคัดเลือกตามวิธีการที่หลักสูตรกำหนด
  3. ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรง
  4. ผู้เข้าศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา จะศึกษาเกินกว่า 1 สาขาวิชาในเวลาเดียวกันมิได้
  5. ผู้เข้าศึกษาต้องผ่านเกณฑ์คะแนนภาษาอังกฤษในวันลงทะเบียนแรกเข้า ดังต่อไปนี้
    • มีคะแนนภาษาอังกฤษ CU-TEP ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป หรือ TOEFL ตั้งแต่ 400 ขึ้นไป หรือ IELTS ตั้งแต่ 3.0 ขึ้นไป ก่อนลงทะเบียนเข้าสอบสัมภาษณ์ ทั้งนี้ ผลคะแนนต้องมีอายุไม่เกิน 2 ปี นับจากวันรายงานผลคะแนนการทดสอบจนถึงวันประกาศผลการคัดเลือก
    • การสำเร็จการศึกษา นิสิตต้องมีคะแนนภาษาอังกฤษ CU-TEP ตั้งแต่ 45 ขึ้นไป หรือ TOEFL ตั้งแต่ 450 ขึ้นไป หรือ IELTS ตั้งแต่ 4.0 ขึ้นไป หรือสอบผ่านรายวิชาภาษาอังกฤษตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดด้วยจึงจะสำเร็จการศึกษาได้

จำนวนที่คาดว่าจะรับ ปีการศึกษา 2567 จำนวนทั้งสิ้น 145 คน โดยแบ่งเป็น

  • แผน ก2 (วิทยานิพนธ์) จำนวน 49 คน
  • แผน ข (เอกัตศึกษา) จำนวน 96 คน

วิธีการคัดเลือก

  • สอบข้อเขียน
  • สัมภาษณ์

ค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมการศึกษา

  • ค่าใช้จ่ายที่นิสิตต้องชำระ ประมาณ 40,500 บาท / ภาคการศึกษา

ทุนอุดหนุนการศึกษา

  • ทุนอุดหนุนการศึกษา ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  www.grad.chula.ac.th  หรือ โทร.0-2218-3502-4
  • ทุนของคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แก่ ทุนนิสิตช่วยงาน  สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต  

ระยะเวลารับสมัคร

  • เปิดรับสมัครระหว่างเดือนมกราคม – เมษายน ของทุกปี ** คลิกสมัคร **

วิธีการสมัคร (สามารถทำได้ 3 ช่องทาง)

  1. ยื่นใบสมัครทาง Online ที่ www.law.chula-regist.com
  2. ยื่นใบสมัครด้วยตนเองที่หลักสูตรฯ
  3. ยื่นใบสมัครทางไปรษณีย์

บุคลากรประจำหลักสูตร

ผู้อำนวยการหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต

  • ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภาวัฒน์ สัตยานุรักษ์

รองผู้อำนวยการหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต

  • อาจารย์ ดร.ปราโมทย์ เสริมศีลธรรม

เจ้าหน้าที่หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต

  • นายบำรุง ถนอมเชื้อ โทรศัพท์ 02-218-2064
  • นางพิริยาภรณ์  คำมอนมาย โทรศัพท์ 02-218-2058
  • นางสาวกนกกร  ป้อมปลั่ง โทรศัพท์ 02-218-2021

ติตต่อหน่วยงาน

สำนักงานหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต

หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชานิติศาสตร์)

  • อีเมล llm-thai@law.chula.ac.th
  • โทร. 095-3676129

นิสิตเก่า

ศาสตราจารย์พิเศษ เรวัติ  ฉ่ำเฉลิม

อดีตอัยการสูงสุด


“ผมเข้าศึกษาในหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต เมื่อปี 2517 เดิมผมคิดว่าตนเองมีความรู้ด้านกฎหมายมากเพียงพอแล้ว เพราะสามารถสอบเข้าได้ในลำดับที่ 1 แต่เมื่อได้เข้ามาเรียนแล้วทำให้ได้รู้ว่าความรู้ที่เรามีนั้นยังน้อยนัก หลักสูตรฯ ได้ให้ทั้งความรู้และประสบการณ์ที่ดีอย่างยิ่ง โดยผมสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้มาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี”

นายอัครพันธ์ สัปปพันธ์

ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกา


“ความรู้และประสบการณ์ของคณาจารย์ทั้งจากภายในและภายนอกคณะ ประกอบกับการมอบงานให้อ่านก่อนการบรรยาย ทำให้บรรยากาศในการเรียนการสอนเป็นการถกเถียงทางวิชาการที่น่าสนใจ ทันสมัยและสนุก คณะจัดให้มีการให้คำปรึกษาวิทยานิพนธ์ที่เป็นระบบและมีคุณภาพ ส่งผลให้มหาบัณฑิตทางนิติศาสตร์มีความเข้มแข็งทางวิชาการและเป็นที่ยอมรับในแวดวงกฎหมาย”

นางทิพาพันธ์  รัตนพิทักษ์

ตุลาการศาลปกครองกลาง


หลักสูตรนี้สอนให้ผู้เรียนเข้าใจถึงหลักการพื้นฐานของกฎหมายมหาชน เน้นการคิด วิเคราะห์อย่างเป็นระบบ จึงทำให้ดิฉันสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในการทำงานได้จริง

นายสมพร  เหลี่ยมป้อ

Senior Associate


องค์ความรู้และวิธีการลำดับความคิดในการทำวิทยานิพนธ์ที่ได้รับจากคณาจารย์ประจำหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิตสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพให้กับตัวเอง

นางสาวโสมนัส  เจือศรีกุล

DIRECTOR OF TIJ ACADEMY, THAILAND INSTITUTE OF JUSTICE”


“หลักสูตรนี้ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้หลักการ องค์ความรู้ และกรอบวิธีคิดซึ่งทำให้ดิฉันสามารถต่อยอดการเรียนรู้ด้วยตนเองได้อย่างไม่สิ้นสุด แม้จะจบการศึกษาไปแล้วก็ตาม”

นางสาวภิญญดา  ไรนิเกอร์

นักการทูตปฏิบัติการ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ


“ในฐานะที่เรียนหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ทั้งที่จุฬาฯ และต่างประเทศสามารถบอกได้ว่าความรู้ด้านกฎหมายระหว่างประเทศที่ได้จากหลักสูตรของจุฬาฯ สามารถนำมาปรับใช้ในการทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศได้มากที่สุด อีกทั้งคณาจารย์ก็มีความรู้และมีคณภาพในระดับสากล หลักสูตรมีความลึกและละเอียด ใช้เทคโนโลยีช่วยในการเรียนการสอน ดีกว่า LLM ที่ต่างประเทศ”